วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เอกยุท อันชันบุตร ด่าสื่อชั่ว

เอกยุท อันชันบุตร ด่าสนธิลิ้ม กับ เนชั่ว
by ก on Fri Feb 08, 2008 5:26 pm
แฉ!พฤติกรรมน่ารังเกียจ เอะอะชอบอ้างเป็น‘สื่อ’ ชี้ต้องใช้คำว่า‘เหลือบในคราบสื่อ’เหมาะสมที่สุด ปูดเที่ยวบินเกาะหาผลประโยชน์ไปทั่ว ใครขวางทางขู่เจอม็อบไล่-ด่ากราดไม่มีชิ้นดี เปิดพฤติกรรม “เหลือบในคราบสื่อ” ตัวจริง ใครขัดขวางผลประโยชน์ส่วนตัว ก็เตรียมรับสภาพถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยอ้างผลประโยชน์ชาติ แต่อาศัยสื่อในเครือตัวเองโจมตี ยกตัวอย่างไล่เรียงตั้งแต่ “ทักษิณ-สุรยุทธ์-สนธิบัง-สพรั่ง-ประชัย” ที่โดนกันถ้วนหน้า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในหมู่คนที่เคยร่วมขับไล่ระบอบทักษิณ ที่ชอบอวดอ้างความดีของตัวเอง และเวลานี้ก็มีการเปิดศึกกับผู้คนไปทั่ว ไม่เว้นแม่แต่คนในแวดวงสื่อด้วยกันเอง จะเห็นได้ว่าบุคคลคนนี้ จะออกมาโจมตีใครในทุกครั้งที่มีข่าวเรื่องไปขอผลประโยชน์แล้วไม่ได้ดั่งใจตลอด โดยก่อนหน้านี้ก็เริ่มจากการสรรเสริญเยินยอ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่ภายหลังมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ที่ “ขอแล้วไม่ได้” ก็เลยจำต้องออกมาเคลื่อนไหวด่า และจับพลัดจับพลู ไปรวมตัวกับคนที่ขับไล่ระบอบทักษิณ ที่มีกระแสเรื่องความเกลียดทักษิณ-กระแสเรื่องความจงรักภักดีมาเกี่ยวข้อง ก็เลยทำให้ “การปลุกมวลชน” เกิดขึ้นอย่างมีพลัง ทำให้สุดท้ายคนๆ นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการขับไล่ระบอบทักษิณเท่านั้นจากนั้นบุคคลคนนี้ ตอนแรกก็ออกมาสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการทำปฏิวัติและคณะทหารที่ทำปฏิวัติ เริ่มตั้งแต่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์-พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน-พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร แต่เวลานี้ทั้ง 3 คนนี้ก็ล้วนตกเป็นเป้าโจมตีของบุคคลคนนี้และเครือข่ายสื่อในสังกัดของเค้า“จากคำบอกเล่าจากผู้ใหญ่ ก็พูดกันว่า มีการเจรจาเพื่อขอทำธุรกิจ แต่เมื่อไม่ได้ ก็มีการออกมาด่ากราดกันยกใหญ่ เชื่อว่าคนที่ร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณมาก็คงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องเหล่านี้ ก็อยากให้ติดตามว่า ล้วนแต่มีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องเสมอ ตั้งแต่เรื่องขอทำทีวีในช่องฟรีทีวีแล้วมีปัญหาภายหลัง รวมถึงกรณีล่าสุดที่เกี่ยวกับพล.อ.สพรั่งในเรื่องโครงการบรอดแบรนด์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ แทบจะจูบปาก เยินยอกันว่าเป็น “วีรบุรุษ” ผู้กล้าหาญ แต่สุดท้ายคนเยินยอก็กลับมาตำหนิเองว่า...พล.อ.สพรั่งเป็นเหลือบในคราบวีรบุรุษ”นายเอกยุทธกล่าวนายเอกยุทธ กล่าวอีกว่า ล่าสุดบุคคลคนนี้ ก็ออกมาพูดจาข่มขู่ว่าจะมีการเคลื่อนไหว และเขาสามารถปลุกม็อบให้กลับมาได้ หากมีขบวนการฟอก “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งตนฟังแล้ว “น่ารำคาญ” เพราะเอะอะอะไรก็อ้างม็อบ ทั้งๆ ที่เวลานี้สถานการณ์มันแตกต่างกับคราวที่มีการปลุกม็อบขับไล่ระบอบทักษิณ ที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะ “ร่วมด้วยช่วยกัน” อย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ทุกอย่างมันเป็นตรงกันข้ามหมด คนที่เคยร่วมด้วยช่วยกันก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ประกอบกับรัฐบาลใหม่ของนายสมัคร สุนทรเวช ก็เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาดเสียหาย การออกมาในเชิงข่มขู่จึงไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้องนัก “และผมก็เชื่อว่า คนอย่างนายสมัคร คงไม่ใช่อนุบาลทางการเมือง ให้ใครมาจูงจมูกได้ง่ายๆ และนายสมัครก็คงไม่ยอมจะทำอะไรในสิ่งที่ผิดๆ แน่ เพราะอายุก็มากขนาดนี้ ผ่านร้อนผ่าวหนาวทางการเมืองมามาก ทั้งในช่วงตกอับและรุ่งโรจน์ ย่อมรู้ดีว่าจะทำอย่างไร”นายเอกยุทธกล่าวนายเอกยุทธ กล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงอยากให้สังคมจับตาดูพฤติกรรมของ “เหลือบในคราบสื่อ” คนนี้มากกว่า ว่าสุดท้ายแล้ว ทำเพื่อประเทศชาติตามที่ชอบแอบอ้างจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีพฤติกรรมที่พิสูจน์ชัดว่า มักทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองก่อน...แต่หากมีปัญหาเมื่อใด ก็มักอ้างว่า อยู่ในฐานะ “สื่อมวลชน” ที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น โดยยกเรื่องผลประโยชน์ชาติมาเป็นข้ออ้าง อย่างล่าสุดที่ “เขาคนนี้” ออกมาเปิดศึกกับ “พญาไม้-เผด็จ ภูรีปฏิภาณ” แห่งนสพ.บางกอกทูเดย์ โดยเฉพาะที่ออกมาระบุว่า เหยียบเรือทุกแคม ตอนมีการยึดอำนาจก็วิ่งเค้าเกาะพล.อ.วินัย ภัททิยกุล (เลขาธิการคมช.) พอตอนนี้คมช.หมดอำนาจ ก็วิ่งไปเกาะ “ทักษิณ ชินวัตร” และวันนี้ก็ไปเกาะกับ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง”“การวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ ก็อยากให้มองย้อนกลับไปสมัยที่บุคคลคนนี้กระทำเมื่อครั้งวิ่งไปเกาะทักษิณ เที่ยวขอโฆษณาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ หรือขอให้ช่วยเหลือคดีความต่างๆ หรือเอาอย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่ก่อนหน้านี้ญาติดีกับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แห่งทีพีไอ เพราะเป็นผู้สนับสนุนด้านโฆษณาให้กับสื่อในเครือของคนๆ นี้ แต่ภายหลังมีปัญหาก็ถอนโฆษณา และสุดท้ายนายประชัยก็ถูกด่าตามระเบียบ ทำไมตอนนายประชัยยังให้โฆษณากับสื่อในค่ายนี้ ถึงไม่ออกมาโจมตีบ้าง นี่แหล่ะพฤติกรรมของเหลือบในคราบสื่ออย่างแท้จริง”นายเอกยุทธกล่าว PNA Newshttp://ptv1.bravehost.com/news/politics.php?news=3077

ไม่มีความคิดเห็น: